อุทยานหลวงราชพฤกษ์
ความเป็นมา
เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ใน พ.ศ.๒๕๔๙ และทรงเจริญพระชนมายุ ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ และคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๖ เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ๒๕๔๙ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ (พื้นที่ ๔๖๘ ไร่ ๓ งาน ๑๐ ตารางวา) โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๐ รวม ๙๒ วันภายใต้ชื่อ “มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙” ซึ่งเป็นงานที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
จากความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ ที่ได้รับการตอบรับทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นอย่างดี คณะรัฐมนตรีจึงมีมติ เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๑ ให้สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เข้ามาบริหารจัดการและใช้ประโยชน์พื้นที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการและปฏิบัติงานด้านต่างๆ มีภารกิจหลักในการพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้พืชสวนและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทย โดยได้รับการถ่ายโอนกิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ และงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาเป็นของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๒ และมีการส่งมอบสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ ในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๒
สำหรับการตั้งชื่ออุทยานหลวงราชพฤกษ์นั้น หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้มีลายพระหัตถ์ที่ ล. ๐๑/๓๕๘ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๒ ขอพระราชทานชื่อสวนซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า “สวนหลวงราชพฤกษ์” ต่อมาท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทนราชเลขาธิการ ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อสวนดังกล่าวว่า “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๓ และได้รับพระราชทานชื่อภาษาอังกฤษว่า “Royal Park Rajapruek” ตามหนังสือสำนักราชเลขาธิการที่ รล. ๐๐๓.๔/๕๕๐๔๕ ลงวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๓
สวนไทย | ||||
สวนไทยเป็นพื้นที่จัดแสดงพืชสวนเขตร้อนชื้น ที่มีหลากหลายของพันธุ์พืช เทคโนโลยีการผลิต และการแปรรูป ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 1,900 ชนิด รวมแล้วมากกว่า 3.2 ล้านตัน ประกอบด้วยไม้ในกลุ่มต่าง ๆ คือ ไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะกล้วยไม้ สมุนไพร พืชผักและเห็ด พันธุ์ไม้หายาก และสวนอื่น ๆ เช่น สวนไม้หอม สวนไม้ในวรรณคดี สวนไม้ประจำจังหวัด อาคารเรือนร่มไม้ ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังจัดแสดงพันธุ์พืชต่าง ๆ ภายในกลุ่มอาคารเรือนกระจก ได้แก่ อาคารพืชทะเลทราย อาคารไบโอเทคโนโลยี อาคารพืชเขตร้อน อาคารพืชเขตหนาว และอาคารพืชไร้ดิน รวมทั้งยังมีหมู่บ้านสี่ภาค ที่จัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นไทย และการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมตามภูมิภาคนั้น ๆ สวนไทยประกอบด้วย
2. อาคารพืชเขตร้อนชื้น
3. เรือนร่มไม้
4. อาคารพืชไร้ดิน
5. อาคารกล้วยไม้
6. สวนสมุนไพร
7. สวนบอนไซ
8. เรือนไทยภาคเหนือ
9. เรือนไทยภาคอีสาน
10. เรือนไทยภาคใต้
11. เรือนไทยภาคกลาง
12. นิทรรศการไม้ประจำจังหวัด
|
อ้างอิงจาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น